ก่อนการปรับตั้งควรตรวจค่าความเร็วเน็ตของท่าน (Speed Test) แล้วจดไว้ เพื่อนำมาเปรียบเทียบเมื่อปรับตั้งแล้วเสร็จ
มิฉะนั้น อาจไม่รู้สึกว่าความเร็วเพิ่มขึ้น เพราะความเร็วจะเพิ่มประมาณร้อยละ 10-20 ซึ่งไม่มากมายถึงขั้นปรู๊ดปร๊าด และบางครั้งสัญญาณจากต้นทางมาอ่อน ต่อให้ปรับตั้งเครื่องรองรับสุดยอดอย่างไรก็คงไม่เห็นผล โปรดใจเย็น ๆ http://speedtest.adslthailand.com/ http://www.meelink.com/check_isp_speed/speed_test/view_sp.php มีการเก็บสถิติ วิธีการปรับตั้งดังต่อไปนี้ ไม่น่ามีปัญหาส่งผลกระทบหรือผลเสียต่อคอมพ์ เว้นแต่เครื่องที่มีแรมน้อยเกินไป เพราะคล้ายกับการเปิดท่อเน็ตที่ถูกปิดไว้บางส่วน ให้เปิดอ้าซ่าเต็มร้อย จากประสบการณ์ที่ใช้มาหลายเดือน ขอบอกว่าดีมาก ๆ ดาวน์โหลดสุดยอด แต่อัพโหลดยังไม่ค่อยพอใจ เป็นการคัดลอกตาม ๆ กันมา จึงไม่รู้จะให้เครดิตใคร และคงไม่มีผู้ใดออกมารับผิดชอบ (โปรดใช้วิจารณญาณ) เหมาะมากกับท่านที่ชอบความเร็ว และการดาวน์โหลด เช่น โหลดบิท โหลดคลิบ และอื่น ๆ ตามปกติจะเพิ่มความเร็วประมาณร้อยละ 10-20 แต่กับเน็ตหอหรือวงแลนจะเห็นผลเพิ่มมากมายร้อยละ 50 ขึ้น ถ้ามีปัญหาอะไร หรือไม่ชอบใจในภายหลัง ก็ปรับตั้งค่าให้กลับไปเหมือนเดิม แค่นี้ก็สิ้นเรื่องหมดกังวลแล้ว 1.เพิ่มความเร็วในการเล่น Internet โดยมีคำสั่งให้เครื่องไม่ต้องจำกัด Bandwith limit เป็นวิธีปลดล็อกความเร็วทำให้ Internet ลื่นขึ้นโดยไม่มีพิษภัย ต่อไปนี้เครื่องหมาย ---> จะใช้แทนคำว่า “กดเครื่องหมายบวกที่ หรือคลิกที่” ขั้น ตอนแรก ให้คุณล็อกอินเข้าระบบด้วยบัญชีผู้ใช้เป็น Administrator (อย่าใช้ชื่ออื่น) บางเครื่องอาจต้องเข้า Safe mode หรือถ้าติดขัดไม่สะดวกอย่างไร ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปก่อนก็ได้ แล้วไปที่ start---> run---> พิมพ์ gpedit.msc กด ok (หรือกดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิด Run ก็ได้) จะ ปรากฏหน้าต่าง Group Policy ขึ้นมา กดเครื่องหมาย + ที่หน้า computer configuration---> Administrative Templates---> network คลิกเลือกที่ QoS Packet Scheduler ดูกรอบทางขวามือ ดับเบิ้ลคลิกที่ Limit reservable bandwith จะ ปรากฏหน้าต่างใหม่ Limit reservable bandwith Propoties เลือกแถบ setting คลิกเลือกที่ช่อง Enable ในกรอบ Bandwith limit(%) ปรับเป็น 0 แล้วกด ok 2. MTU (Maximum Transmission Unit) คือหน่วยกำหนดค่าการรับส่งข้อมูลสูงสุดผ่านระบบเครือข่าย ถ้าเราตั้งค่า ให้ค้นหา MTU แบบอัตโนมัติ จะทำให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไป ที่ Start---> run---> พิมพ์ regedit แล้วกด Ok ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet---> Services---> Tcpip---> Parameters คลิกขวาที่ Parameters เลือก new > DWORD Value ตั้งชื่อว่า EnablePMTUDiscovery แล้วดับเบิ้ลคลิก พิมพ์ค่าเป็น 1แล้วกด ok 3. เพิ่มค่าการรับส่งข้อมูล MTU ให้มากที่สุด ย่อมทำให้ระบบเครือข่ายการรับส่งข้อมูลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปที่ Start---> Run---> พิมพ์ regedit แล้วกด Ok จะปรากฏหน้าต่าง Registry Editor ขึ้นมา ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet---> Services---> Tcpip---> Parameters---> interfaces คลิกที่หน้า interfaces จะมีหลายโฟลเดอร์ ให้คลิกขวาที่โฟลเดอร์แรก --->new--->DWORD Value---> แล้วตั้งชื่อว่า MTU แล้วดับเบิ้ลคลิกใส่ค่าแทนเลข 0 ดังต่อไปนี้ ถ้าเป็น dial-up Connection ใส่ค่า 576 ถ้าเป็น PPP Broadband Connecting ใส่ค่า 1492 ถ้าเป็น Ethernet , DSL , Cable Broadband Connection ใส่ค่า 1500 (เน็ตส่วนมากจะใช้อันนี้) 4. Clearing NETBT ให้ทำงานไม่ติดขัด เพื่อจะได้กด Repair เวลา NET หลุดหรือมีปัญหาได้คล่องขึ้น 1. ไปที่ "start" และ "run" 2. พิมพ์ "cmd" แล้วกดปุ่ม enter หรือ ok จะมีหน้า DOS ปรากฏขึ้นมา 3. พิมพ์ "netsh int ip reset c:\logfile.txt" (ควรก๊อปไปใส่เลยดีกว่า) ลงใน DOS แล้วกด Enter ซึ่งเป็นคำสั่งทำการ Reset ค่า TCP/IP ทั้งหมด ทำให้การกด Repair ค่า Local Area Connection สามารถ Clearing NETBT ได้ดีกว่าเดิม ผลพลอยได้คือทำให้ต่อ NET ได้เร็ว ลื่นขึ้น และสะดุดน้อยลง จากนั้น Restart เครื่อง ก่อนไปทำตามขั้นตอนที่ 5 -9 5. ปรับ Port Settings ตั้งค่า Bits per second และ Recieve Buffer ให้สูงสุด คลิกขวาที่ My Computer เลือก Properties จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมา ให้คลิกที่แท็ป Hardware แล้วคลิกที่แท็ป Device Manager จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา จากนั้นคลิกที่เครื่องหมาย + หน้า Ports (COM & LPT) แล้วดับเบิลคลิกเลือก Port ที่โมเด็มเราใช้อยู่ (ปกติมักเป็น Com2 บางคนอาจมีแค่ Com1) จะมีหน้าต่าง Communications Port Properties ขึ้นมา ให้คลิกที่แท็ป Port Settings จากนั้นปรับค่า Bits per second จากเดิม 9600 ไปที่ 57600 น่าจะพอดี ถ้าปรับสูงสุดที่ 128000 แรงก็จริง แต่เน็ตมักหลุดบ่อย และเลือกส่วนของ Flow Control เป็น Hardware ต่อมาให้คลิกที่ Advanced แล้วปรับค่า Recieve Buffer ให้มีค่าสูงสุด (High) 6. ลบข้อมูลใน Cache และปรับแต่ง Harddisk การ ลบข้อมูลใน Cache โดยเข้าไปที่เว็บบราวเซอร์ของคุณโดยตรง หรือใช้โปรแกรมช่วยลบ พร้อมลบไฟล์ขยะและรีจิสทรีออกจากเครื่องบ้างประมาณ 7-10 วันต่อครั้ง จะช่วยให้เครื่องเบา และส่งผลให้เน็ตเร็วขึ้น ขอแนะนำโปรแกรมลบไฟล์ยอดนิยมคือ CCleaner ซึ่งเป็น freeware ไปดูดที่ http://www.ccleaner.com/ เมื่อ ลบไฟล์ไม่พึงประสงค์เสร็จแล้ว ขั้นต่อมาใช้โปรแกรมปรับแต่งซ่อมบำรุงเครื่อง ขอแนะนำ 1. Advanced SystemCare Pro 2. Error Repair Professional 3. WinXP.Manager ค้นหาและ Download ได้จากในเว็บนี้ ควรใช้ร่วมกันทั้งสามตัวเพราะแต่ละตัวมีคุณสมบัติเด่นดีไปคนละแบบ เสร็จแล้วจบด้วยการจัดเรียงข้อมูล ขอแนะนำโปรแกรมยอดนิยมที่เป็น freeware คือ http://www.defraggler.com/download ถ้าไม่ชอบใช้โปรแกรมก็เลือกคำสั่ง Scandisk และ Disk Defragmenter ไปที่ Start---> Allprogram ---> Accessories---> System Tools---> เลือกข้อย่อยตามต้องการ 7. แก้ไขข้อมูลใน Registry ให้โหลดหน้าเว็บเร็วขึ้น งานนี้ที่จริงไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเร็วของการดาวน์โหลด เพียงแต่จะช่วยให้พีซีสามารถค้นหาเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น ซึ่งทำให้หน้าเว็บถูกโหลดขึ้นอย่างรวดเร็ว และการท่องเว็บเร็วอีกนิดย่อมสนุกมากอีกหน่อย ไปที่ Start --->Run พิมพ์ regedit แล้วกด OK (หรือกดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิด Run ก็ได้) ไป ที่ HKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet---> Services---> Tcpip---> ServiceProvider ดูกรอบด้านขวามือให้ดับเบิ้ลคลิกทีละตัว แล้วแก้ไขค่าของตัวแปรทุกตัวข้างล่างนี้ให้เป็น 1 โดยค่าทั้งหมดที่แก้ไขให้ใช้ชนิดข้อมูลเป็น HEXADECIMAL Class: 1 DnsPriority: 1 HostsPriority: 1 LocalPriority: 1 NetbtPriority: 1 8. ติดตั้งโปรแกรมช่วยปรับค่าและติด Turbo ให้กับเว็บบราวเซอร์ ขอแนะนำ Internet Turbo แค่ 2.0 MB http://www.clasys.com/iturbo54.exe เป็นโปรแกรมช่วยในการปรับค่า และเพิ่มความเร็วโดยการตรวจสอบ Configuration ที่เหมาะสมสำหรับ ISP ของเรา 9. ติดตั้งโปรแกรมช่วยเร่งความเร็วอินเตอร์เน็ต ขอแนะนำ Cfosspeed Restart เครื่องอีกครั้ง ขอให้รื่นรมย์กับความแรง |